ผู้นำจีนเล็งทัวร์อิหร่าน ฉวยโอกาสหลังเลิกแซงก์ชั่น
Prev1 of 1Next
คลิกภาพเพื่อขยาย
updated: 16 ม.ค. 2559 เวลา 19:15:31 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
การยกเลิกการคว่ำบาตรทางการค้าต่ออิหร่านจากชาติตะวันตก ที่จะมีผลบังคับใช้ในเร็ว ๆ นี้ ทำให้หลายประเทศเริ่มมองหาโอกาสทางการค้าและการลงทุนร่วมกับอิหร่าน หนึ่งในมหาอำนาจด้านน้ำมันแห่งตะวันออกกลาง โดยเฉพาะจีน ที่มักฉวยโอกาสจากช่องว่างทางอำนาจในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า
จากการเปิดเผยอย่างไม่เป็นทางการของนักการทูตจีนรายหนึ่ง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน มีแผนเดินทางเยือนอิหร่านและภูมิภาคตะวันออกกลางภายในช่วงสิ้นเดือน ม.ค.นี้ พร้อมด้วยกลุ่มนักธุรกิจ เพื่อผูกสัมพันธ์และแสวงหาโอกาสทางการค้าการลงทุน
อิหร่านถือเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับจีน ด้วยขนาดประชากร 78 ล้านคน และคนอิหร่านไม่น้อยยังคงต่อต้านสินค้านำเข้าจากสหรัฐ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ภาคธุรกิจจีนจะช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด ขณะที่ฟากอิหร่านเองก็หวังที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์กับจีนเช่นกัน
ในช่วงที่ผ่านมาจีนได้ส่งผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ จาง หมิง เข้าหารือกับนายโมฮัมหมัดจาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน โดยฝ่ายจีนได้เข้าไปเสนอตัวให้ร่วมมือในหลายประเด็น เช่น เรื่องการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน การค้า และการลงทุนด้านพลังงาน ตลอดจนชูประเด็นขายของอย่าง "One Belt, One Road" ที่จีนส่งเสริมมาตลอด
ด้านนายมาจิด-เรซา ฮาริรี ผู้อำนวยการหอการค้าจีน-อิหร่าน ระบุกับสำนักข่าวทัสนิมของอิหร่านว่า ระหว่างการเยือนอิหร่านของนายสี ทั้ง 2 ฝ่ายเตรียมจะลงนามในบันทึกความเข้าใจในโครงการร่วมพัฒนารถไฟ ท่าเรือ และเขตการค้าเสรี โดยจีนยังเตรียมผลักดันเงื่อนไขการแลกเปลี่ยนเงินตราที่ส่งเสริมการค้าระหว่างกันด้วย
ส่วนเรื่องของความมั่นคง นายจางได้กล่าวเตือนอิหร่านให้อดทนกับสถานการณ์ความขัดแย้งกับซาอุดีอาระเบีย ขณะที่ก่อนหน้านี้จีนยังได้เข้าแทรกแซงสถานการณ์ความมั่นคงในตะวันออกกลาง โดยการเชิญนายวาลิด อัล-โมอัลเล็ม รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรีย และนายคาเลด โคจา ผู้นำฝ่ายกบฏต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ให้เดินทางเยือนจีน ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเล่นบทคนกลาง
เป็นไปได้ว่าที่จีนสนใจความมั่นคงในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะปัญหากลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม (ไอเอส) เป็นพิเศษ แม้ว่าที่ผ่านมาจะวางตัวเป็นกลางจากภูมิภาคนี้มาตลอด ก็เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ลุกฮือแบบเดียวกันของกลุ่มชาวมุสลิมในเขตปกครองพิเศษซินเจียงอุยกูร์
อย่างไรก็ตาม เดอะ ดิโพลแมต ระบุว่า ทริปเยือนอิหร่านของนายสีที่ยังพ่วงเอาอียิปต์และซาอุดีอาระเบียเข้าไปด้วย สะท้อนว่าจีนพยายามจะวางท่าทีที่เป็นกลางที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง หลายฝ่ายยังตั้งข้อสังเกตว่า ที่ประธานาธิบดีจีนเว้นว่างจากตะวันออกกลาง แม้จะเดินทางไปเยือนรอบโลกมาแล้ว เป็นเพราะว่าจีนลังเลที่จะเข้ามาเล่นบทบาทมหาอำนาจในภูมิภาคนี้
แต่ด้วยท่าทีที่ปิดปากเงียบของทางการจีน โดยปล่อยให้สื่ออิหร่านและอียิปต์เป็นผู้ออกข่าวการเยือนตะวันออกกลางของนายสี ทั้งยังให้คาดเดากันไปเองว่า การเดินทางของนายจางเป็นการปูทางไปสู่การเยือนอย่างเป็นทางการในระดับผู้นำจีน ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและซาอุดีอาระเบียในตะวันออกกลางเข้าขั้นใกล้ปะทุเต็มทน อาจทำให้ผู้นำจีนต้องชั่งน้ำหนักอย่างรอบคอบว่าการมาเยือนอิหร่านในช่วงนี้ใช่จังหวะเวลาที่เหมาะสมหรือไม่
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1452945462 
นายกไทยไม่คิดไปเยือนอิหร่านบ้างหรือ ดูประธานาธิบดีจีนซิเตรียมไปขายของให้อิหร่านอีกแล้ว
Prev1 of 1Next
คลิกภาพเพื่อขยาย
updated: 16 ม.ค. 2559 เวลา 19:15:31 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
การยกเลิกการคว่ำบาตรทางการค้าต่ออิหร่านจากชาติตะวันตก ที่จะมีผลบังคับใช้ในเร็ว ๆ นี้ ทำให้หลายประเทศเริ่มมองหาโอกาสทางการค้าและการลงทุนร่วมกับอิหร่าน หนึ่งในมหาอำนาจด้านน้ำมันแห่งตะวันออกกลาง โดยเฉพาะจีน ที่มักฉวยโอกาสจากช่องว่างทางอำนาจในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า
จากการเปิดเผยอย่างไม่เป็นทางการของนักการทูตจีนรายหนึ่ง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน มีแผนเดินทางเยือนอิหร่านและภูมิภาคตะวันออกกลางภายในช่วงสิ้นเดือน ม.ค.นี้ พร้อมด้วยกลุ่มนักธุรกิจ เพื่อผูกสัมพันธ์และแสวงหาโอกาสทางการค้าการลงทุน
อิหร่านถือเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับจีน ด้วยขนาดประชากร 78 ล้านคน และคนอิหร่านไม่น้อยยังคงต่อต้านสินค้านำเข้าจากสหรัฐ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ภาคธุรกิจจีนจะช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด ขณะที่ฟากอิหร่านเองก็หวังที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์กับจีนเช่นกัน
ในช่วงที่ผ่านมาจีนได้ส่งผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ จาง หมิง เข้าหารือกับนายโมฮัมหมัดจาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน โดยฝ่ายจีนได้เข้าไปเสนอตัวให้ร่วมมือในหลายประเด็น เช่น เรื่องการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน การค้า และการลงทุนด้านพลังงาน ตลอดจนชูประเด็นขายของอย่าง "One Belt, One Road" ที่จีนส่งเสริมมาตลอด
ด้านนายมาจิด-เรซา ฮาริรี ผู้อำนวยการหอการค้าจีน-อิหร่าน ระบุกับสำนักข่าวทัสนิมของอิหร่านว่า ระหว่างการเยือนอิหร่านของนายสี ทั้ง 2 ฝ่ายเตรียมจะลงนามในบันทึกความเข้าใจในโครงการร่วมพัฒนารถไฟ ท่าเรือ และเขตการค้าเสรี โดยจีนยังเตรียมผลักดันเงื่อนไขการแลกเปลี่ยนเงินตราที่ส่งเสริมการค้าระหว่างกันด้วย
ส่วนเรื่องของความมั่นคง นายจางได้กล่าวเตือนอิหร่านให้อดทนกับสถานการณ์ความขัดแย้งกับซาอุดีอาระเบีย ขณะที่ก่อนหน้านี้จีนยังได้เข้าแทรกแซงสถานการณ์ความมั่นคงในตะวันออกกลาง โดยการเชิญนายวาลิด อัล-โมอัลเล็ม รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรีย และนายคาเลด โคจา ผู้นำฝ่ายกบฏต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ให้เดินทางเยือนจีน ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเล่นบทคนกลาง
เป็นไปได้ว่าที่จีนสนใจความมั่นคงในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะปัญหากลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม (ไอเอส) เป็นพิเศษ แม้ว่าที่ผ่านมาจะวางตัวเป็นกลางจากภูมิภาคนี้มาตลอด ก็เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ลุกฮือแบบเดียวกันของกลุ่มชาวมุสลิมในเขตปกครองพิเศษซินเจียงอุยกูร์
อย่างไรก็ตาม เดอะ ดิโพลแมต ระบุว่า ทริปเยือนอิหร่านของนายสีที่ยังพ่วงเอาอียิปต์และซาอุดีอาระเบียเข้าไปด้วย สะท้อนว่าจีนพยายามจะวางท่าทีที่เป็นกลางที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง หลายฝ่ายยังตั้งข้อสังเกตว่า ที่ประธานาธิบดีจีนเว้นว่างจากตะวันออกกลาง แม้จะเดินทางไปเยือนรอบโลกมาแล้ว เป็นเพราะว่าจีนลังเลที่จะเข้ามาเล่นบทบาทมหาอำนาจในภูมิภาคนี้
แต่ด้วยท่าทีที่ปิดปากเงียบของทางการจีน โดยปล่อยให้สื่ออิหร่านและอียิปต์เป็นผู้ออกข่าวการเยือนตะวันออกกลางของนายสี ทั้งยังให้คาดเดากันไปเองว่า การเดินทางของนายจางเป็นการปูทางไปสู่การเยือนอย่างเป็นทางการในระดับผู้นำจีน ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและซาอุดีอาระเบียในตะวันออกกลางเข้าขั้นใกล้ปะทุเต็มทน อาจทำให้ผู้นำจีนต้องชั่งน้ำหนักอย่างรอบคอบว่าการมาเยือนอิหร่านในช่วงนี้ใช่จังหวะเวลาที่เหมาะสมหรือไม่
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1452945462